ต้นกำเนิดชานมไข่มุก
ชานมไข่มุก คืออะไร
เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่คนนิยมและใครๆก็เห็นกันบ่อยก็คือชานมไข่มุก ปัจจุบันมีขนาดตลาดในเมืองไทยอยู่ประมาณ 2.5 พันล้านบาทและอีกมหาศาลทั่วโลกซึ่งมีความนิยมยั่งยืนมากกว่าทศวรรษและยังไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุด มาทำความรู้จักกับเครื่องดื่มในตำนานกันว่าชานมไข่มุกคืออะไรและมีที่มาจากไหน
พื้นฐาน
ชานมไข่มุก (Pearl Milk tea) หรือที่เรียกกัน บับเบิ้ลที (Bubble tea) และ โบบาที (Boba tea) มีส่วนประกอบที่เป็นชาต้ม ผสมด้วยนมหรือน้ำเชื่อมรสผลไม้และสามารถเพิ่มท็อปปิ้งได้หลากหลายเช่น ไข่มุก (Tapioca pearls) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชานมเลยหรือท็อปปิ้งอื่นๆ ได้แก่ ชีส พุดดิ้งไข่ มันบด เป็นต้น เมื่อทุกร้านพยายามสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง ก็จะมีสูตรแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครออกมาเรื่อยๆ เช่นชานมสายไหมและชานมป็อปคอร์น
ต้นกำเนิดที่ลึกลับ
ชานมไข่มุกมีต้นกำเนิดมาจากประเทศไต้หวันในราว ๆ ปี 1980 จนเติบโตมาเป็นการส่งออกสำคัญของประเทศ แต่มีความซับซ้อนเพราะว่าทุกวันนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ให้กำเนิดที่แท้จริง มีเพียงสองร้านชาที่ดูน่าเชื่อถือมากที่สุด
ร้านชาแรกก็คือ Hanlin Tea Room (ฮั่นหลิน) จากเมือง Tainan (ไถนาน) ที่ยืนยันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มนี้ เมื่อในปี 1986 เจ้าของร้าน นายตู้ซงเหอ (Tu tsong-he) ออกไปเดินตลาดอามูเหลียว (Ya Mu Liao) ในขณะที่สำรวจตลาดอยู่ ก็สะดุดตากับไข่มุกมันสำปะหลังสีขาวที่กำลังลดราคาและเกิดความสนใจอยากเอามาลองใช้กับชาดู ผลการทดลองออกมาเป็นที่น่าพอใจหลังจากนั้นก็นำน้ำผึ้งและน้ำตาลทรายมาผสมกับไข่มุกเพื่อให้มีความหวานและมีสีดำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชานมไข่มุกมาถึงทุกวันนี้
แต่ร้านชาคู่แข่ง“ชุนฉุ่ยถัง” (Chun Shui Tang Teahouse) อ้างอีกอย่างว่าในปี 1988 พนักงานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณหลินชิ่วฮุย (Lin Hsiu Hui) ค้นพบชานมไข่มุกด้วยความบังเอิญ คุณหลินชิ่วฮุยเกิดอาการรู้สึกเบื่อในระหว่างการประชุมของบริษัท ก็เลยเทขนม fen yuan (คล้ายกับแป้งหนึบในน้ำแข็งใส) ลงไปในชาเย็นและให้ทุกท่านที่ร่วมประชุมได้ลองชิมกัน ปรากฏว่าทุกคนชมว่ารสชาติอร่อยมาก จึงได้ทดลองที่จะทำไปขายในร้านซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มยอดฮิตนี้ ไม่ว่าที่มาที่แท้จริงจะเป็นไปอย่างไรชานมไข่มุกก็เป็นชาต้มที่แสดงถึงวัฒนธรรมของคนไต้หวันที่ชอบดื่มชา แม้วันเวลาจะผ่านไปร้านชาได้พัฒนาและปรับปปรุงสูตรเพื่อเปลี่ยนไปตามกระแสและความต้องการของลูกค้า แต่ชานมไข่มุกที่หอมและเคี้ยวแล้วเหนียวหนึบหนับก็ยังคงความอร่อยที่คงความเป็นเอกลักษณ์และชื่นชอบของคนทุกวัย
ความรู้เพิ่มเติม
- ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ฝั่งตะวันตกมักเรียกชานมไข่มุกว่าโบบาที (Boba Tea) โบบาแปลว่า “หน้าอกใหญ่” ในภาษาไต้หวัน แรงบันดาลใจสำหรับร้านชาในการตั้งชื่อนี้มาจาก เอมี่ ยิป (Amy Yip) ซึ่งเป็นดาราที่โด่งดังในฮ่องกงในช่วงนั้น
- ชาไข่มุกมีวิธีการชงและรสชาติที่แตกต่างกันออกไปรวมทั้งมีท็อปปิ้งหลากหลายประเภท บางร้านมีขายมากกว่า 200 รายการดังนั้นไม่ว่าจะชอบรสชาติแบบไหนก็สามารถสร้างสรรค์ชานมในแบบที่ต้องการได้