ความรู้ชา, ความรู้อาหาร

เม็ดไข่มุกทำมาจากอะไร

เจาะลึก ไข่มุกในชานม

กระแสชานมไข่มุกช่วงนี้มาแรงมาก มักเป็นคำตอบกับการคลายร้อนในเมืองไทย ซึ่งตัวพระเอกของไช่มุกก็คือเม็ดไข่มุกกลมโตที่เหนียวนุ่ม นอกจากความอร่อยแล้วยังทำให้เครืองดื่มนี่เกือบจะข้ามเส้นกลายเป็นเหมือนขนมเพราะไข่มุกแก้วหนึ่งมีถึง 500 แคลอรี่ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ชานมไข่มุกโดดเด่นจากเครื่องดื่มอื่น ๆ แม้ว่าไข่มุกดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อคู่กับชานม หลายคนก็อาจสงสัยถึงต้นกำเนิดของเม็ดไข่มุกเหล่านี้และต้นเหตุในการจับคู่กับชานม

ไข่มุกมาจากที่ไหน?

แป้งที่ใช้ในการทำไข่มุกมาจากรากของพืชมันสำปะหลัง (Cassava Plant) พืชมันสำปะหลังเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอเมริกาใต้ ลักษณะเป็นพุ่มไม้ขนาดเล็กถึงขนาดกลางและมีรากลึกลงไปในใต้ดินคล้ายกับต้นมันฝรั่ง เนื่องจากพืชเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อนและสามารถทนทานต่อความแห้งแล้ง จึงเหมาะกับอากาศของประเทศในแถบเอเชียที่มีสภาพอากาศใกล้เคียงกัน เม็ดพืชมันสำปะหลังก็เลยถูกนำมาจากประเทศอเมริกาใต้ไปขายในประเทศในแถบเอเชีย หนึ่งในประเทศนั้นก็คือไต้หวันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชานมไข่มุก

หนึ่งในวัฒนธรรมของไต้หวันเป็นการดื่มชาร้อน บนถนนจะเต็มไปด้วยร้านชามากมาย บางร้านที่มีชื่อเสียงก็ขยายสาขาหลายแห่ง หลังจากเกษตรกรของไต้หวันเริ่มการปลูกพืชมันสำปะหลัง แป้งที่สกัดจากพืชมันสำปะหลังก็ถูกแปรรูปเป็นมันสำปะหลังสีขาวที่มีวางจำหน่ายในตลาดท้องถิ่น เมื่อในราว ๆ ปี 1980 ร้านชาก็เริ่มลองขายชาเย็นพร้อมกับไข่มุกมันสำปะหลังสีขาวซึ่งสามารถสร้างรายได้อยางมหาศาล ต่อมาร้านชาก็เอาน้ำผึ้งและน้ำตาลทรายมาผสมกับไข่มุกมันสำปะหลังสีขาวเพื่อให้มีรสชาติหวานและสีดำเหมือนกับที่เห็นในตอนปัจจุบัน

ทำไมต้องเพิ่มไข่มุกมันสำปะหลัง?

บางคนอาจสงสัยว่าไข่มุกและชานมคู่นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ต้นเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้ก็เป็นเพราะว่าคนไต้หวันนิยมอาหารที่มีเนื้อสัมผัสแบบเคี้ยวแล้วเหนียวหนึบหนับและมีความยืดหยุ่นหรือที่เรียกกันว่า “คิวคิว (QQ)”  ในอุตสาหกรรมอาหาร ตัวอย่างที่แสดงถึงความยืดหยุ่นได้แก่ ขนมหวานถังหยวน ลูกชิ้น และเส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดต่าง ๆ ไข่มุกก็เป็นวัตถุหนึ่งที่มีความเคี้ยวหนึบหนับและยืดหยุ่นเช่นกัน แรงบันดาลใจของคำว่า “คิวคิว (QQ)” น่าจะมาจากคำในภาษาไต้หวันในท้องถิ่นที่ออกเสียงคล้ายกับ“ “คิว (Q)” และมีความหมายว่า “ หนึบหนับและนุ่มนวล” คำหนึ่งที่เหมือน “คิวคิว QQ” ก็คือคำ “อัลเดนเต้ (Al dente)” ในภาษาอิตาลีใช้สำหรับเรียกเส้นพาสต้าที่หนึบหนับไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป

แน่นอนว่าชานมไข่มุกนั้นไม่เพียงต้องมาคู่กับไข่มุกเท่านั้น แต่ยังสามารถเพลิดเพลินได้ด้วยตัวของมันเองหรือคู่กับท็อปปิ้งสร้างสรรค์อื่น ๆ เช่น ชีส ป๊อปคอร์น ขนมสำลี ฯลฯ

Leave a Reply